
วันอังคาร ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 18.10 น.
“วิชา" เรียก “เพิ่มพูน-ธนสิทธิ์”แจงคกก.สอบข้อเท็จจริงคดี"บอส อยู่วิทยา" ขณะที่ "ธนสิทธิ์" ยันให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนครั้งเดียว ยอมรับกังวลความปลอดภัย ปูดถูกกดดัน จ่อเรียก"สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" แจง 20 ส.ค.นี้
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ได้เชิญพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาให้ข้อมูลด้วย
จากนั้นเวลา 16.30 น. นายวิชา ให้สัมภาษณ์ภายหลังสอบข้อเท็จจริงพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ถือเป็นพยานที่มีน้ำหนักทำให้อัยการสูงสุด(อสส.)สั่งไม่ฟ้อง ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ จาก 177 เป็น 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพียงครั้งเดียวคือ ในวันที่ 26 ก.พ. 2559 และยืนยันว่าไม่ได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 มี.ค.2558 ตามที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่ทราบว่านายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบและการผลิตยานยนต์เข้ามาได้อย่างไร ทราบว่าเพียงเป็นผู้ทำข้อมูลในคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง จึงทำให้เชื่อถือในข้อมูล แต่เมื่อกลับมาทบทวน และเชื่อว่าไม่ถูกต้องจึงพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลกลับไปอยู่ที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.จร บช.น.อ้างว่าคำคดีอื่นซับซ้อน ทำให้เกิดความสับสน จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
"พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยอมรับว่ากังวลเรื่องของความปลอดภัย โดยอ้างว่ามีบุคคลติดตามและถูกกดดัน"
เมื่อถามว่าถูกกดดันจากใคร นายวิชา กล่าวว่าพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ไม่ได้ตอบตรงๆ แต่บอกว่าคนที่พานายสายประสิทธิ์มาคือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ดังนั้นคณะกรรมการฯจะเชิญมาให้ข้อมูลชี้แจงในวันที่ 20 ส.ค.เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ รวมถึงเชิญอัยการสูงสุดมาด้วย
เมื่อถามต่อว่าจะต้องเชิญ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่ถูกกล่าวอ้างในรายงานเข้าชี้แจงด้วยหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า คงไม่ต้อง เพราะวันนี้ชี้แจงแล้วว่า ใช้เพียงห้องทำงานของพล.ต.ท.มนูเท่านั้น ซึ่งจะตรวจสอบว่าในการทำสำนวน จะต้องมีใครเกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ส่วนข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบทั้งหมดพ.ต.อ.วิรดล เหมือนจะต้องรับผิดคนเดียวใช่หรือไม่นั้น อยู่ในกระบวนการ แต่ไม่เปิดเผยว่ามีบุคคลใดบ้าง ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบฝ่ายตำรวจจะเชิญผู้บังคับการกองต่างประเทศ ที่รับผิดชอบการออกหมายแดง (อินเตอร์โพล)และการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาให้ข้อมูลต่อข้อมูลในวันที่ 20 ส.ค.นี้เช่นเดียวกัน รวมถึงเชิญเชิญตำรวจที่เชียงใหม่ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง และการชันสูตรพลิกศพด้วย
เมื่อถามอีกถึงการเข้าให้ข้อเท็จจริงของพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายวิชา กล่าวว่า เจ้าตัวได้ชี้แจงเรื่องการมอบอำนาจ ว่าเป็นไปตามระบบ คำสั่งเป็นเด็ดขาดไม่รับคืน และที่ไม่เห็นแย้งกับอัยการเพราะไม่มีข้อมูลใดผิดปกติ แต่ยอมรับว่า เพิ่งทราบว่ามีการกดดัน พ.ต.อ.ธนสิทธิ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่ามีการกดดัน และทำสำนวนอันเป็นเท็จ ตนไม่ยอม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะต้องนำไปพิจารณากระบวนการทำงานของตำรวจต่อไปนอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลจากคณะทำงานทั้งหมดจนถึงขณะนี้ เห็นได้ชัดแล้วถึงหรือไม่ว่าเป็นกระบวนการเอื้อในทางคดี ให้กับนายวรยุทธ อยู่วิทยา นายวิชา กล่าวว่า อย่างที่สื่อมวลชนบอกเราก็รู้กันดีอยู่ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ไม่ใช่แค่คดีรถชนคนตาย แต่จริงๆ แล้วไม่ปกติ สมแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบโดยเฉพาะ ส่วนกรณีโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะกรรมการเป็นขบวนการสอบ เพื่อช่วยกันนั้น ถ้าช่วยกัน ตนจะออกมาเปิดเผยข้อมูลพิรุธและบอกว่าผิดปกติทำไม มีหรือไม่ที่ตนบอกว่าไม่มีผิดปกติเลย
"ข้อมูล" - Google News
August 18, 2020 at 06:10PM
https://ift.tt/317CkRi
เรียก'บิ๊กอ๊อด'ให้ข้อมูลคดีบอส แฉ'ธนสิทธิ์'กดดันหนัก ถูกคนติดตาม ห่วงความปลอดภัย - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"ข้อมูล" - Google News
https://ift.tt/2XOQ0gR
No comments:
Post a Comment